21 มกราคม 2568

หัวข้อชวนคุยวันนี้อาจจะทำให้หลายคนไม่อยากสนทนา แต่เราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใจกลางที่คนเชียงใหม่ไม่เคยสนทนากันจริงจัง ทุกครั้งที่เกิดปัญหาหมอกควัน เราก็พร้อมจะโยนให้เป็นความผิดของ “ไฟ” ไฟกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวในความเห็นของคนเชียงใหม่
เมื่อเห็นไฟเกิดขึ้นที่ไหนก็ต้องดับให้หมดสิ้นเพราะมันคือต้นตอของหมอกควัน ต้นตอของมะเร็งปอด และคุกคามสุขภาพของคนเชียงใหม่ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไฟ ทำให้เราไม่กล้าจะเข้ามาใกล้ ไม่กล้าจะมาเรียนรู้ความจริง 2 ด้านของมันอย่างจริงจัง ความจริง 2 ด้านที่ว่าคือไฟมีทั้งคุณ และโทษเหมือนกับหลายสิ่งหลายอย่างนั่นแหละ ถ้าเรารู้จักมันดีพอ ราก็จะทำให้เกิดประโยชน์ได้มากขึ้น
ความจริงคือไม่มีอะไรผิด อะไรถูกร้อยเปอร์เซนต์ การเลือกการจัดการไฟแบบไหนมาจากบริบทของพื้นที่และเวลาเป็นสำคัญ แต่ ณ เวลานี้กระแสสังคมที่เอาความกลัวเป็นที่ตั้งกำลังบีบให้เหลือเพียงทางเลือกเดียวในการจัดการ อยากชวนมองและแลกเปลี่ยนกันเยอะ ๆ ว่าทำไมบางพื้นที่ถึงใช้ Zero Burn ห้ามไม่มีไฟโดยเด็ดขาด และทำไมบางพื้นที่ถึงต้องมีการ Management ตัวอย่างบางพื้นที่ที่ใช้แนวทางห้ามไฟเข้าโดยเด็ดขาด เช่น ที่บ้านดอยปุย ต.สุเทพ เนื่องจากเป็นป่าดิบชื้น ดิบแล้งและสนเขา ซึ่งป่าประเภทนี้ระบบนิเวศน์เป็นป่าไม่ผลัดใบ และเป็นเขตต้นน้ำลำธาร ชาวบ้านก็จะใช้แนวทางห้ามไฟเข้าโดยเด็ดขาด
ขณะที่บางพื้นที่ที่มีแต่ป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณ ซึ่งเป็นป่าผลัดใบก็จะเลือกการจัดการแบบ Management หมายถึงมีการลดเชื้อเพลิงบางส่วนก่อนเข้าสู่ฤดูแล้ง หรือบางพื้นที่ ชุมชนก็มีการจัดการแบบผสมผสาน เช่น ที่บ้านปางยาง บ้านปง อ.สะเมิง จะมีทั้งโซนที่ปกป้องไม่ให้ไฟเข้าเด็ดขาด และโซนที่มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพราะเป็นเขตป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ เป็นต้น
ยังไงก็ตาม หัวใจของแนวทางของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงนั้นจะต้องเป็นการควบคุมร่วมกัน และคำนึงถึงสิทธิการหายใจของคนเชียงใหม่ เพราะถ้าปล่อยให้มีการลักลอบจุดเผาไฟก็จะทำเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างมากขึ้น เช่น กรณีที่เคยเกิดขึ้นที่ต.แม่พอพระ อ.แม่แตงในปี 2565 เคยมีแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง แต่โดนขอความร่วมมือจากจังหวัดให้ระงับการบริหารจัดการเชื้อเพลิง แต่สุดท้ายมีการแอบจุดจนทำให้พื้นที่ป่าเผาไหม้ไปถึง 80% ของพื้นที่
มาตรการสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ควบคุมพื้นที่การเผาโดยไม่อนุญาตให้มีการเผาเพื่อเป็นการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 พฤษภาคม 2568 หากประชาชนจำเป็นก็สามารถขออนุมัติ โดยการเปิดให้ประชาชนในพื้นที่ลงทะเบียนเข้าแอพพลิเคชั่น Fire D ยังต้องติดตามต่อว่าแต่ละแห่งมีปัญหาข้อจำกัดอะไรบ้าง ทำไมถึงทำได้และไม่ได้อย่างไร น่าจะมีการเอามาแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน
ข้อท้าทายคือการทำให้ระบบบริหารจัดการไฟมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร เพราะปัจจุบันหน่วยงานหลายหน่วยงานก็เริ่มตระหนักถึงแนวทางการบริหารจัดการไฟ มีระบบรองรับแล้ว แต่ก็ยังต้องพัฒนาและสร้างการมีส่วนร่วม การสนับสนุนจากท้องถิ่นด้วย ทำไมบางท้องถิ่นทำได้ บางท้องถิ่นถึงทำไม่ได้เพราะอะไร ถ้ามีการหันหน้ามาคุยกันถึงเหตุผล ความจำเป็นของแต่ละส่วนอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่ามันจะช่วยทำให้เราหาทางออกจากปัญหาซ้ำซากของฝุ่นควันนี้ไปได้

ประชาธรรมคือองค์กรสื่อทางเลือกที่ก่อตั้งเมื่อปี 2542 โดยกลุ่มนักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชนและองค์กรชุมชนในเขตภาคเหนือ