14 สิงหาคม ที่ผ่านมาโครงการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อส่งเสริมการมีขนส่งสาธารณะเมืองเชียงใหม่ ดำเนินการโดยโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) (ระยะที่ 2) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, สาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับภาคประชาสังคม พลเมืองชาวเชียงใหม่ ได้แก่ สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาพลเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียวสวยหอม สภาองค์กรของผู้บริโภคจังหวัดเชียงใหม่ ThaiPBS มูลนิธิสื่อประชาธรรม Chiang Mai Health Fund วาระเชียงใหม่ และสสส. ร่วมกันจัดกิจกรรมการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อส่งเสริมการมีขนส่งสาธารณะเมืองเชียงใหม่ “เวทีสาธารณะออกแบบขนส่งสาธารณะเมืองเชียงใหม่เพื่อเมืองเชียงใหม่น่าอยู่ ครั้งที่ 1” ณ โรงแรม เมอเวนพิค สุริวงศ์ เชียงใหม่ (Mövenpick Suriwongse Hotel Chiang Mai) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันนโยบายสาธารณะเรื่องขนส่งสาธารณะ สู่การกำหนดนโยบาย และปฏิบัติการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ได้ขนส่งสาธารณะที่ตรงกับความต้องการของประชาชน และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่

ขนส่งสาธารณะแก้เศรษฐกิจแก้ฝุ่นควัน

ปลายอ้อ ทองสวัสดิ์ ตัวแทนภาคประชาสังคมจากสภาลมหายใจเชียงใหม่กล่าวว่าเชียงใหม่มาถึงจุดที่ต้องลดมลพิษทางอากาศ ที่ผ่านมาเราเห็นว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นแหล่งมลพิษทางอากาศตลอดปี ไม่ต่างจากมลพิษการเผา ในส่วนของสภาลมหายใจเชียงใหม่มีการทำโครงการปฏิบัติการเมืองลดการปลดปล่อยมลพิษฝุ่นควันและเพิ่มการกักเก็บคาร์บอนโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ในมุมมองของสภาลมหายใจเชียงใหม่เห็นว่าปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมาที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นระบบและมั่นคง ในระยะเวลา 10 ปีที่ผานมา นักวิชาการ ภาครัฐ ภาคประชาสังคมในเชียงใหม่พยายามจะผลักดันให้ขนส่งสาธารณะให้เกิดขึ้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีปัจจัยที่เป็นอุปสรรคหลายประการคือ 1. ระบบขนส่งสาธารณะเป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้งบประมาณลงทุนสูงเกินกว่าจะมีหน่วยงานไหนรับดำเนินการ 2. กระทรวงคมนาคม หรือรัฐบาลทุ่มงบประมาณเพื่อการสร้างโครงข่ายถนนเพื่อรองรับรถยนต์ส่วนบุคคลละเลยการพัฒนาขนส่งสาธารณะในเมืองหลักของแต่ละภูมิภาค 3. อปท.ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางเป็นภาระงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.พฤติกรรมการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลของคนในเชียงใหม่ ทำให้ภาคธุรกิจเอกชนไม่กล้าลงทุน 5.ข้อเสนอภาควิชาการหรือโครงการศึกษาวิจัยที่ขาดกลไกการติดตามผลักดันที่ต่อเนื่อง และ 6.ขนส่งสาธารณะที่มีอยู่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยแม้จะเป็นสมาชิกสหกรณ์รถขนส่งแต่ยังกระจัดกระจาย ต่างคนต่างทำไม่มีระบบและความเข้มแข็งที่จะสร้างโครงข่ายการเดินทางสาธารณะของเมืองได้

ปลายอ้อได้กล่าวถึงข้อท้าทายว่าทำอย่างไรจะให้มีการสร้างพื้นที่การมีส่วนร่วมขนส่งสาธารณะ หรือประชาสังคมขนส่งสาธารณะ การศึกษายกระดับทางเลือกรูปธรรมขนส่งสาธารณะที่มีอยู่ การเป็นประชาสังคมที่ส่งเสียงอย่างมีพลังให้ข้อเสนอนโยบายขนส่งสาธารณะที่เป็นไปได้จริงทั้งกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐบาลเพื่อทำให้เมืองเชียงใหม่ไปสู่เมืองคาร์บอนต่ำได้จริง และควรมีการการเดินทางที่หลากหลายตามศักยภาพได้อย่างแท้จริง

ด้านผศ.ดร.ปรีดา พิชยาพันธ์ โครงการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อส่งเสริมการมีขนส่งสาธารณะเมืองเชียงใหม่กล่าวว่า เราเห็นความสำคัญว่าระบบขนส่งสาธารณะที่จะต้องมีการออกแบบให้ตรงกับคนใช้ มีการกำหนดรายละเอียดเพื่อดึงดูดให้คนโดยเฉพาะภาคประชาสังคม และคนใช้งานจริง ๆ ที่จะนำความเห็นออกมา และให้ครอบคลุมความเห็นของทุกกลุ่ม generation

การออกแบบระบบขนส่งสาธารณะเบื่องต้นมีแนวคิด คือเมื่อเราเจอสภาพการจราจรที่ติดขัด ภาคประชาชนต้องพึ่งพาตนเองส่วนใหญ่ ต้องลงทุนและใช้จ่ายเองทั้งค่าน้ำมัน บำรุงรักษา และการซื้อรถ หลายกลุ่มที่ใช้ชีวิตในเมืองก็จะถูกละเลยไปเพราะไม่มีต้นทุนเพียงพอในการเดินทาง และในอนาคตกลุ่มผู้สูงอายุก็จะเพิ่มมากขึ้น จังหวัดเชียงใหม่อยู่ระดับที่ 4 ของประเทศที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก นอกจากนี้ชาวต่างชาติก็นิยมมาอยู่เชียงใหม่ ดังนั้นการจัดระบบขนส่งจะช่วยลดฝุ่นจากการใช้รถยนต์ได้ด้วยและช่วยแก้ปัญหาการเดินทางของประชาชนได้ด้วย

ระบบขนส่งที่ต้องออกแบบมีหลายองค์ประกอบมาก แต่แนวคิดเบื้องต้นคือถ้าทุกคนใช้รถยนต์ส่วนตัวหมด เราก็ใช้พื้นที่ถนนหมด แต่การใช้รถขนส่งสาธารณะจะทำเราใช้พื้นที่ถนนน้อยลง สามารถจัดพื้นที่ให้คนเดิน และใช้จักรยานได้ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเมืองแออัด และมลพิษที่เพิ่มขึ้นได้

ผศ.ดร.ปรีดากล่าวอีกว่าในการจัดการขนส่งสาธารณะนั้นมีประเด็นที่ต้องคำนึงถึง 6 ด้านคือ 1. การออกแบบโครงข่ายเส้นทาง 2. ระบบสาธารณูปโภค 3. ระบบตั๋ว 4. การยอมรับของประชาชน ถ้าไม่ยอมรับก็ไม่ยอมใช้ 5. ต้องมีการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อลงทุนมักจะขาดทุน และ 6. ต้องมีระบบบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยทั้งตัวรถ และสถานีเพื่อสร้างความมั่นใจ

โดยภาพรวมในการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะใช้เวลานาน สิ่งที่ทำก็ต้องออกแบบลดระยะเวลาการเดิน การรอโดยใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อลดการเดิน และการรอคอยรถโดยสาร ทั้งนี้ ในการจัดระบบขนส่งสาธารณะต้องดูให้รอบด้าน ทั้งด้านวิศวกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม และการลงทุน ทั้งนี้เมืองเชียงใหม่ถือว่าเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนา ทั้งนี้การออกแบบระบบที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น เช่น ถ้ามีคนเดินทาง 2 ล้านคนต่อวัน และมีคนที่จำเป็นต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะ 10 % เราก็ต้องออกแบบให้เหมาะกับคน 10 % นั้น ไม่จำเป็นต้องออกแบบสำหรับคนทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการออกแบบที่ไม่ตอบโจทย์ นอกจากนี้การออกแบบระบบอะไรก็แล้วแต่ ถ้าขาดทุนแล้วมีคนใช้บริการมากก็น่าลงทุน เพราะระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่รัฐต้องลงทุนเพื่อประชาชนอยู่แล้ว แต่ถ้าลงทุนแล้วไม่มีคนใช้บริการแล้วก็ขาดทุนด้วยก็ต้องกลับมาทบทวน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังต้องมีการออกแบบระบบรอง และระบบเสริมระบบขนส่งสาธารณะหลักด้วย และต้องมีมาตรการเสริม เช่นการเอื้อให้คนใช้มากขึ้น เช่น ค่าโดยสารที่ไม่แพงจนเกินไป อาจจะ 20 บาทตลอดสาย เป็นต้น ในอนาคต ระบบขนส่งสาธารณะต้องเป็นโครงข่าย การที่จะให้คนใช้เยอะ ๆ ต้องเป็นโครงข่าย และเชื่อมต่อไปนอกเมือง หน่วยงานภาครัฐ ส่วนกลางก็ต้องมาช่วย อนาคตต้องมีฟีดเดอร์ การเข้าชุมชนก็ต้องมีรถขนาดเล็กเพื่อเชื่อมต่อให้เดินทางได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้งบประมาณมาก

อบจ.เสนอคนเชียงใหม่คุยกันให้มาก ทำให้เร็ว    

คุณสมชาติ วัฒนากล้า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าที่ผ่านทำไมเชียงใหม่ไม่มีขนส่งสาธารณะเหมือนกรุงเทพเรื่องนี้ทุกภาคส่วนต้องมาช่วยกันคิด ช่วยกันหาคำตอบ ตอนนี้ทางอบจ. นอกจากจะได้สัมปทานสาย 18 และ 20 ที่มีการดำเนินการไปแล้ว เราก็จะเพิ่มการขอสัมปทานจากกรมการขนส่งทางบกเพิ่มอีกสายคือสาย 6 ซึ่งเป็นสายรอบเมืองเชียงใหม่ สนามบิน วัฒโน อาเขต เซ็นทรัลเฟสติวัล ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมต่อเชื่อมกับรถสาย 18 และ 20 ที่ได้สัมปทานไปแล้ว และกำลังว่าจ้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการออกแบบให้ตอบโจทย์คนเชียงใหม่ เพราะจุดที่เชื่อมกันของรถแต่ละสาย เราจะไปทำสถานีตรงนั้น อันนี้ภาครัฐต้องลงทุนในเรื่องนี้ก่อน เพราะอย่างไรระบบขนส่งสาธารณะเป็นการลงทุนที่ไม่ได้หวังผลกำไรในตอนแรก เพราะเราต้องให้บริการแก้ประชาชน แต่ภาครัฐจะจัดการแบบนี้ไปตลอดก็ไม่ไหวก็จำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมาย นโยบายให้บริการสาธารณะนั้นภาครัฐต้องสนับสนุน

รองนายกฯ อบจ.กล่าวว่าการคิดและช่วยกันออกแบบขนส่งสาธารณะอยากให้รอบคอบ  คิดนาน ๆ แต่ทำไว ๆ ในส่วนของ อบจ. กำลังให้อ.ปรีดาศึกษาฯ และออกแบบโดยมีต้นแบบรถไฟฟ้าจุฬาฯ คือวิ่งให้นาน เดือนสองเดือนแรกอาจจะฟรีก่อน นักท่องเที่ยวอาจจะเก็บเงิน เรื่องนี้เราต้องเห็นภาพเดียวกัน อีกอีนเรื่องรถแดงที่มีอยู่ 2 พันคันนั้นเราจะเปลี่ยนรถแดงเป็นอีวี แต่ดัดแปลงนั้นต้องใช้เงินถึง 7-8 แสนบาท ตอนนี้ให้มีสัก 100 คันที่จะมาเป็นฟีดเดอร์จากสถานีต่าง ๆ รับไปส่งตามหมู่บ้าน ทั้งนี้ งานศึกษาจะเสร็จเดือนกันยายน หลังจากนั้นก็ต้องทำ TOR เพื่อทำรถขนส่งสาธารณะต่อไป

เทศบาลเสนอสร้างรูปธรรมเล็กๆ ก่อนผลักดันทั้งเมือง

มนต์ชัย พงษ์เกียรติก้อง รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่กล่าวถึงระบบขนส่งสาธารณะที่เชียงใหม่เคยทำมาแล้วทั้งภาคเอกชน เทศบาล รถเหลือง รถแดง รถไฟฟ้าเอ็นจีวี สาเหตุที่ต้องยุบไปเพราะไม่มีผู้โดยสาร เรามีการถอดบทเรียนที่ผ่านมาว่าสาเหตุที่ระบบขนส่งสาธารณะของเชียงใหม่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะ 1. เส้นทางของระบบขนส่งสาธารณะไม่ตอบโจทย์ ขณะที่เมืองเชียงใหม่มีโครงสร้างเป็นใยแมงมุม การที่เราต้องขอเส้นทางจากกรมขนส่งทางบก และยากที่จะเปลี่ยนเส้นทางทำให้ไม่ตอบโจทย์ผู้โดยสาร เพราะคนเชียงใหม่ต้องการเส้นทางสั้น ๆ และถึงเป้าหมายอย่างรวดเร็ว 2. เรื่องงบประมาณ ท้องถิ่นมีภาระกิจ เมื่อทุกคนต้องการใช้เวลาสั้น ๆ ในการเดินทาง ถ้าเรางบไม่พอก็ทำให้รถโดยสารมีน้อยเกินไป เราไม่สามารถจัดรถโดยสารมาตอบสนองผู้บริโภค เมื่อรถโดยสารมีน้อยก็ทำให้ระยะเวลาไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอีก 3.พฤติกรรมของคนเชียงใหม่ที่ขึ้นเฉพาะเช้ากับเย็น ช่วงกลางวันไม่มีคน

รองปลัดเทศบาลฯ กล่าวว่าดังนั้นเราจะทำอย่างไรให้ยั่งยืน เราต้องมีทุกฝ่ายมาร่วมกันทำ และต้องให้ส่วนกลางสนับสนุน รถจากนอกเมืองก็ต้องเป็นรถรางไฟฟ้า ไม่ใช่รถบัส เพื่อนำคนเข้าเมือง อย่างไรก็ตามวันนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เราต้องมีการพูดคุยกัน และกำหนดเส้นทางรองรับ ทั้งนี้ ในปีหน้าเทศบาลกำลังนำสายไฟลงดินในย่านนิมมาน และจะทำนิมมานเป็นวันเวย์ ให้วนรถเป็น 4 เหลี่ยม และมีจุดจอดรถ ทำรถเมล์ไฟฟ้าเล็กบริการ ก็จะเป็นโครงการเล็ก ๆ ที่เราหวังว่ามันจะขยายรูปธรรมไปได้ในจุดอื่น ๆ อีก

ภาคธุรกิจเสนอใช้มาตรการจูงใจใช้รถขนส่งสาธารณะ

ธีระ หว่องวัฑฒโน ตัวแทนภาคธุรกิจจากโรงแรมแทมมารีนกล่าวว่าที่ผ่านมาภาคธุรกิจได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาอุปสรรคที่เชียงใหม่ไม่ประสบความสำเร็จในการจัดการขนส่งสาธารณะ ทั้ง ๆ ที่เราเคยมีรถสาธารณะหลายรูปแบบทั้ง RTC ที่เคยวิ่ง 3 สาย ตอนนี้เหลือเพียงสายเดียว เดิมตั้งใจเป็นบริการสาธารณะสำหรับคนเชียงใหม่ แต่กลายเป็นนักท่องเที่ยวใช้มากกว่า เคยมีรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (LOMO) เดิมรับคนทั่วไป แต่ปัจจุบันเน้นรับนักท่องเที่ยวและทำทัวร์ ล่าสุดต้องปรับตัวไปรับงานจากห้างสรรพสินค้า รถโดยสารของเทศบาล แต่กลับพบว่าคนใช้บริการจากแอพพลิเคชั่นมากกว่า 3,000 คนต่อวัน ขณะที่รถขนส่งสาธารณะรับได้อย่างมากเพียง 30 คนต่อวัน รถแดงก็มีข้อจำกัดในการปรับเป็นอีวีเพราะสภาพรถเก่าเกินไป แล้วก็มีการผลักดันรถโรงเรียน แต่สิ่งที่เราพบคือขาดการบูรณาการของรัฐ ไม่มีข้อมูลที่ตรงกับพื้นที่จริง การตัดสินใจที่ Top Down โครงสร้างพื้นฐานไม่พร้อม เช่น จุดจอดรถ ป้ายรถเมล์ที่หมดสภาพ และพฤติกรรมของคนเชียงใหม่ที่ยังติดรถยนต์ส่วนตัว การออกแบบเมืองไม่รองรับระบบขนส่งสาธารณะ เป็นต้น

แนวทางที่กลุ่มคุยกัน คือการกำหนดเป้าหมาย วางโมเดลที่เหมาะสม ก่อนที่จะทำระบบขนส่งสาธารณะให้ทำการประเมินผลกระทบระยะสั้น ระยะยาว เพราะหน่วยงานรัฐมักจะคิดแล้วทำเลย ก็สู้แรงต้านไม่ไหว ส่งเสริมการปั่นจักรยาน ปรับปรุงรถแดงให้มีมาตรฐาน การวางระบบโครงสร้างที่เชื่อมต่อระบบขนส่ง มีระบบตั๋วร่วม การสร้าง Low Emission Zone หมายถึงเขตพื้นที่ควบคุมการปลดปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ โดยเสนอ 6-7 พื้นที่ เช่น คูเมือง (เชื่อมโยงมรดกโลก) อบจ./ห้วยตึงเฒ่า, เจริญประเทศ/มงฟอร์ต, ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (ช้างม่อย/สันป่าข่อย), พื้นที่ริมแม่น้ำปิง/แม่ข่า/แม่คาว เพื่อส่งเสริมการเดินและปั่นจักรยาน อยากให้มีการศึกษาและใช้กับเมืองเชียงใหม่  ข้อดีคือฟื้นฟูคุณภาพชีวิตกับเศรษฐกิจ

หน่วยงานรัฐควรมีข้อมูลพื้นฐาน และตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดจำนวนรถยนต์เข้าเมืองเท่าไหร่ ทุกคนต้องเห็นเป็นภาพเดียวกัน เสนอให้ทำโครงการนำร่องเล็ก จะเห็นผลเร็ว และจัดการโครงสร้างพื้นฐาน มีทางเท้า ใช้โมเดลแครอท (การจูงใจ) เช่น ขึ้นฟรี 1 ปี ตั๋วฟรี รัฐสนับสนุน มาตรการสตริค เช่น ทำให้ความสะดวกลดลง เขาก็จะเปลี่ยนเอง ขยายผลและบูรณาการให้เป็นจริง หัวใจหลักคือเริ่มเล็ก ใช้ข้อมูลจริง ประชาชนต้องรู้สึกได้ประโยชน์ถึงจะยอมรับ  มีผู้นำท้องถิ่นด้วย ทำต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำครั้งเดียวและจบ

ขนส่งสาธารณะกับ Universal Design

อภิชาติ ใจอ่อน ประธานชมรมฑูตอารยสถาปัตย์ จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงการออกแบบรถขนส่งสาธารณะที่ควรเป็นการออกแบบที่เรียกว่า “universal Design” คือการออกแบบที่ดีที่คำนึงถึงกลุ่มคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง เช่น การปรับปรุงทางเท้า ทางเชื่อมที่เอื้อคนพิการสามารถขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้ ตรงป้ายรถเมล์ควรมีจอแสดงผล เช่นระยะเวลาที่รถจะมาถึง การแสดงสภาพอากาศ มีสัญญาณเสียงแจ้งเตือนสำหรับผู้พิการทางการมองเห็น ที่นั่งบนรถโดยสารควรมีที่สำหรับวีลแชร์ รถขนเด็ก หรือคนมีสัมภาระ ควรมีป้ายสัญลักษณ์ให้ชัดเจนว่าพื้นท่าสำหรับคนพิการ คนตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เป็นต้น

ส่วนป้ายรถเมล์ต้องมีกล้องส่องสว่าง มีที่ชาร์ตแบต WiFi ตัวรถเมล์ควรจะมีพื้นต่ำ และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นทางลาดที่มีมาตรฐานสำหรับคนพิการที่ต้องใช้วีลแชร์สามารถขึ้นรถโดยสารได้ มีจุดจอดวีลแชร์ และ safety Belt มีพื้นที่วางสัมภาระที่มากเพียงพอ ส่วนการให้บริการ ควรมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือคนพิการอย่างถูกต้องถูกวิธี และพัฒนาแอพพลิเคชั่นติดตามรถเมล์ เป็นต้น

เยาวชนชี้การเดินทางคือโอกาส

ภาคภูมิ จี๋เอ้ย ประธานสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวว่าการเดินทางเปรียบเหมือนโอกาส เราเดินทางได้ เราก็มีโอกาสในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่คนเชียงใหม่ยังคงชอบการใช้รถส่วนตัวทำให้รถสาธารณะเกิดขึ้นยาก ไม่เหมือนกรุงเทพที่คุ้นเคยกับรถโดยสาธารณะ ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีรถไฟฟ้า เด็ก มช.ทุกคนก็ใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยนำรถไปจอดที่ลานจอดรถ อันนี้น่าจะปรับใช้กับเมืองเชียงใหม่ได้ คือการทำให้คนคุ้นเคย คุ้นชิน ปลอดภัยจริง และใช้ได้จริง ไม่ใช่ทำมาระยะหนึ่งก็หายไปแล้ว ถ้ามีรถไฟฟ้าจริงให้มีการโปรโมท และลองใช้ก็น่าจะมีคนใช้มากขึ้น ตนเองเห็นว่าการขับเคลื่อนรถขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่ดีมาก เราอยากมีรถขนส่งสาธารณะที่ดี มีใช้ทุกวัน

ในช่วงสุดท้ายผู้ร่วมการประชุมกว่า 100 คนร่วม กิจกรรม Workshop การออกแบบอย่างขนส่งสาธารณะเชียงใหม่อย่างมีส่วนร่วม โดยให้ความคิดเห็นถึง การบริการรถสาธารณะ จุดจอดสถานี สิ่งบริการในรถ ราคาที่เหมาะสม ระยะเวลาการรอรับการใช้บริการ และระยะทางที่เดินมาใช้บริการ รวมไปแนวทางการติดตามขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อพัฒนาขนส่งสาธารณะเชียงใหม่กับท้องถิ่น

ทั้งนี้ จะมีเวทีครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 กันยายนนี้ สามารถติดตามความคืบหน้ากิจกรรมได้ที่เพจ Facebook, Instagram, Tiktok : ขนส่งสาธารณะเชียงใหม่ออกแบบได้

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง